กฎการบินน่ารู้ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน

หนึ่งในฝันที่เป็นจริงของพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่มีลูกรักเป็นสัตว์เลี้ยง นั่นก็คือความอยากที่จะพาเจ้าลูกสุดรักออกเดินทางไปทริปเที่ยวด้วยกันแบบพร้อมหน้า เพราะบางสถานการณ์หรือบางจุดหมายก็จำเป็นต้องเลือกพาเค้าเหินฟ้าขึ้นเครื่องบินไปเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหากคุณอยากจะพาสัตว์เลี้ยงเดินทางด้วยเครื่องบินก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเข้าใจ “กฎการบินน่ารู้ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน” เช็กความพร้อมตามลิสต์ที่เรารวมข้อมูลมาให้แบบครบจบ รับรองลูก ๆ สัตว์เลี้ยงพร้อมบินไปเที่ยวชัวร์!

เช็คสุขภาพของสัตว์เลี้ยงก่อนเที่ยว

ก่อนอื่นเราต้องมั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพที่พร้อม แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่บาดเจ็บ หรือกระทั่งไม่อยู่ในฤดูผสมพันธุ์หรือตั้งครรภ์ ที่สำคัญเจ้าของควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นให้สัตว์เลี้ยงอย่างครบถ้วนก่อนวางแผนเดินทาง โดยเราอยากแนะนำให้พาน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ก่อนเดินทางไม่เกิน 10 วัน จะได้มั่นใจในสุขภาพความปลอดภัยของน้อง ๆ ว่าพร้อมชัวร์

แจ้งข้อมูลต่อสายการบิน 

เตรียมข้อมูล! อาทิ สายพันธุ์ อายุ น้ำหนัก ขนาดตัว ขนาดกรงสำหรับใช้ใส่น้องสัตว์เลี้ยงขณะเดินทาง ฯลฯ ที่สำคัญมาก ๆ คือต้องแจ้งความประสงค์ต่อสายการบินให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมง ก่อนวันเดินทาง (อาจต้องแจ้งมากกว่านี้ เป็นไปตามข้อกำหนดของสายการบิน) โดยสามารถแจ้งผ่านช่องทางต่าง ๆ ของสายการบินที่เดินทาง เช่น Call Center หรือสำนักงานออกบัตรโดยสาร

เตรียมกรงและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

เตรียมกรง! ตามมาตรฐานสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คือมีความแข็งแรงเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงระหว่างการบินขึ้นและลงจอด ประตูแน่นหนาเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหลุดออกโดยบังเอิญ และมีขนาดพอที่สัตว์เลี้ยงจะสามารถนอนราบ ลุกยืน พลิกตัวหรือหมุนตัวได้ตามธรรมชาติปกติของเค้า ทั้งนี้ที่กรงต้องติดตั้งขวดน้ำแบบหยดที่สามารถเติมน้ำได้จากภายนอก พร้อมคำแนะนำในการให้อาหารและน้ำแก่สัตว์เลี้ยงไว้ที่กรงด้วย

เตรียพร้อมเรื่องเอกสารของสัตว์เลี้ยง

เตรียมเอกสารให้พร้อม! โดยเฉพาะกรณีนำสัตว์เลี้ยงออกนอกประเทศจะต้องมีใบอนุญาตนำสัตว์ออกนอกประเทศ ใบอนุญาตนำเข้าประเทศ ใบรับรองสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยงที่ออกโดยสัตวแพทย์ ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หรืออาจจะต้องมีหนังสือเดินทางสัตว์เลี้ยง ตลอดจนเอกสารอื่นตามที่ประเทศปลายทางต้องการ

งดอาหาร และถอดอุปกรณ์ติดตัวสัตว์เลี้ยงก่อนเดินทาง

ควรงดให้อาหารสัตว์เลี้ยงประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันการอาเจียนระหว่างการเดินทาง และก่อนนำสัตว์เลี้ยงเข้ากรงเพื่อส่งต่อน้องให้เจ้าหน้าที่ เราควรถอดอุปกรณ์ที่ติดตัวสัตว์เลี้ยงออกให้หมด เช่น สายรัด เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ติดตามตัว GPS และอื่น ๆ ที่ใช้กำลังไฟแบตเตอรี่เกินค่าที่สายการบินกำหนด (กำลังไฟของแบตฯ ไม่เกิน 100 Wh สำหรับ ลิเธียมอิออน และปริมาณโลหะของแบตเตอรี่ ต้องไม่เกิน 2 กรัม สำหรับลิเธียมเมธัล)

ควรเช็กอินก่อนเวลาเดินทาง

เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องเผื่อเวลาก่อนการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อต้องพาน้อง ๆ เดินทางด้วยเครื่องบินซึ่งมีขั้นตอนเพิ่มขึ้น เรายิ่งควรต้องเผื่อเวลาให้มากขึ้น โดยต้องไปเช็กอินและรายงานตัวล่วงหน้า 2–3 ชั่วโมง ก่อนเดินทางยังเคาน์เตอร์เช็คอินภายในอาคารผู้โดยสารขาออก และหากเจ้าของไม่ได้เดินทางพร้อมกับสัตว์เลี้ยงก็จะต้องไปติดต่อกับทางคาร์โกของสนามบิน

รอรับสัตว์เลี้ยงที่สนามบินปลายทาง

หลังจากส่งตัวสัตว์เลี้ยงเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะพาน้อง ไปยังห้องบรรทุกสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินซึ่งมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง และมีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษตามมาตรการของแต่ละสายการบิน  ส่วนเจ้าของก็สามารถไปรอรับน้อง ได้ที่สนามบินปลายทางตามการนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ได้เลย 

ปัจจุบันมี 3 สายการบินของไทยที่ให้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงแบบ Check Baggage (AVIH- Animal In Hold)

    1. สายการบินไทย
    2. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
    3. สายการบินนกแอร์

ซึ่งแต่ละสายการบินก็อาจมีข้อกำหนดกฎการบินในการเดินทางของสัตว์เลี้ยงที่คล้ายและแตกต่างกันบ้าง  ไม่ว่าจะเป็นชนิดของสัตว์ที่อนุญาต สายพันธุ์ลักษณะทางกายภาพที่อาจห้ามเดินทาง รุ่นเครื่องบิน เส้นทางบิน ฯลฯ ซึ่งเจ้าของก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ ของทางสายการบินเพิ่มเติม นอกเหนือจากข้อมูล “กฎการบินน่ารู้ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน” ที่เรารวบรวมมาให้กันด้วยนะ


 

อยากจะพาน้อง ๆ ออกเดินทางท่องเที่ยว ต้องคิดถึง Pet Friendly Thailand เว็บไซต์ที่รวมโรงแรม ร้านอาหาร Pet Friendly มากที่สุด ที่เดียวในประเทศไทย

คลิกค้นหาที่พัก Pet Friendly สุนัข แมว เข้าได้

คลิกค้นหาร้านอาหาร คาเฟ่ Pet Friendly สัตว์เลี้ยงเข้าได้